นวัตกรรมข้าวเคลือบสมุนไพรเพื่อสุขภาพ ครั้งแรกในประเทศไทย
ข้าวเคลือบสมุนไพร นวัตกรรมที่ถูกคิดค้นและวิจัยขึ้นโดยกองยาไทยและสมุนไพร โดยมี นพ.สุรพงศ์ อำพันวงษ์ ปัจจุบันดำรงตำแหน่งรองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มการแพทย์และธุรกิจต่างประเทศ เครือโรงพยาบาลพญาไท เป็นผู้เสนอแนวคิด แรงบันดาลใจเพื่อให้ดร.ประคองศิริ บุญคง ที่ปรึกษากองยาไทยและคณะได้ร่วมกันวิจัยและทดลองผลิตขึ้น
ข้าวมีหลายสายพันธุ์ แต่ละสายพันธุ์มีหลายสี ไม่ได้เคลือบและไม่ได้ย้อม เป็นสีที่พัฒนาแล้วแต่ยังไม่ได้ย้อมคือ ข้าวหอมมะลิ ข้าวกล้อง ข้าวกล้องงอก ข้าวไรซ์เบอร์รี่สีดำ หลายคนบอกว่าสีดำไม่น่าทานแต่เรามีข้าวไรซ์เบอร์รี่ ข้าวเหนียวดำ ข้าวจ้าว ซึ่งมีคุณค่าสูงมากและข้าวเคลือบสมุนไพรนี้ยังมีการแบ่งเพื่อความเหมาะสมตามวัยเป็น 4 วัยสภาพ
พืชผักสมุนไพร เช่น บัวบก กระเจี๊ยบ มะเขือเทศ หรือจำพวกพืชผักสวนครัวต่างๆ สิ่งเหล่านี้คนเราคงไม่สามารถรับประทานได้ครบหมดทุกอย่าง ความจริงแล้วคนเราต้องการสารอาหารที่อยู่ในสมุนไพรและพืชผักเหล่านี้ต่างหาก เช่น มะเขือเทศ มีสารที่ร่างกายต้องการคือไลโคปีน เป็นต้น ซึ่งการมีอยู่ของสารออกฤทธิ์ที่มีประโยชน์ต่อร่างกายในพืชผักสมุนไพรเหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ลดไขมัน คุณค่าด้านโภชนาการอีกมากมายนั้น ทำให้เกิดการคิดค้นข้าวเคลือบสมุนไพรที่มีความเหมาะสมกับแต่ละวัยขึ้น
ข้าว โดยปกติ เช่น ข้าวไรซ์เบอร์รี่ที่มีลักษณะเป็นสีดำนั้น มีธาตุเหล็กสูงและยังมีสารสีม่วงคือ แอนโทไซยานินที่ช่วยในเรื่องสายตา แต่จากการทดลองและวิจัยนั้น ดร.ประคองศิริ บุญคง ได้บอกว่า การที่เราจะได้รับสารอาหารเหล่านี้จากข้าวไรซ์เบอร์รี่ได้นั้น ตามหลักโภชนาการ จะต้องรับประทานเป็นปริมาณหนึ่งกิโลกรัมต่อหนึ่งมือ ซึ่งในความเป็นจริงเรารับประทานกันแค่ห้าสิบกรัมต่อหนึ่งมือเท่านั้น ดังนั้นการคิดค้นนวัตกรรมข้าวเคลือบสมุนไพรที่เหมาะสมสำหรับ 4 วัยสภาพนี้จึงช่วยให้การรับประทานข้าวของเราได้รับสารอาหารที่ครบถ้วนกว่าเดิมมาก โดยในข้าวเคลือบสมุนไพรของแต่ละวัยจะมีการนำสารสกัดจากพืชผักสมุนไพรกลุ่มประมาณ 5 – 6 ชนิดมาเคลือบข้าวไว้ด้วยกรรมวิธีที่มีประสิทธิภาพจากหลักการของทางกระทรวงการเกษตรฯและทางทีมของ ดร.ประคองศิริ บุญคง นี่เป็นจุดเด่นที่ข้าวเคลือบสมุนไพรมีความแตกต่างกับข้าวเคลือบตามท้องตลาดในปัจจุบัน ที่เคลือบสมุนไพรเพียง 1 ชนิดเท่านั้น
โดยการเลือกสารสกัดจากสมุนไพรมาเคลือบข้าวให้เหมาะกับแต่ละวัยทั้ง 4 วัยนั้นทำให้ข้าวเคลือบสมุนไพรนี้แบ่งออกได้เป็น 4 ชนิด คือ
- ข้าวเคลือบสมุนไพรสำหรับคนสูงวัย เลือกสมุนไพรที่มีสารช่วยจำพวกการชะลอวัย เสริมสร้างความจำ บำรุงสมองเป็นส่วนหลัก สารอาหารที่เลือกมาเคลือบข้าวกล้องงอกสำหรับวัยนี้คือ สารสกัดจากบัวบก, ขมิ้นชันซึ่งมีผลการวิจัยมากมายว่าสามารถช่วยเรื่องความจำ นอกจากนั้นยังมีฟักข้าว ซึ่งมีน้ำมันที่เป็นกรดไขมันที่จำเป็นสำหรับร่างกายและมะเขือเทศที่ช่วยนำพาสารอาหารจากข้าวเหล่านี้ให้แก่ร่างกาย รวมไปถึงถั่วอินคาที่ให้โอเมก้า 3 ข้าวกล้องเพาะงอกสำหรับวัยนี้จะมีกาบาและโอไรซานอลซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ดีมาก
- ข้าวเคลือบสมุนไพรสำหรับวัยทำงาน เป็นข้าวกล้องเพาะงอกมีสีค่อนไปทางเขียว มีสารสกัดจากดอกอัญชัน ขมิ้นชัน ส้มแขก ถั่วอินคา เมี่ยงหมัก สำหรับสรรพคุณของสารอาหารที่ได้จากสมุนไพรและพืชผักที่กล่าวมานั้นอาทิเช่น ส้มแขก จะให้สารที่ช่วยป้องกันการดูดซึมของไขมันและน้ำตาล เมี่ยงหมักซึ่งปกติคือชาที่เกิดจากการหมัก ก็มีคาเฟอีนน้อยกว่าชาและมีสารสื่อนำฟีโรโทนินซึ่งทำให้อารมณ์ดี เป็นต้น
- ข้าวเคลือบสมุนไพรสำหรับวัยรุ่น เป็นข้าวหอมมะลิซึ่งมีค่าดัชนีน้ำตาลสูงให้พลังงานที่ดี จะมีสารเคลือบสมุนไพรจำพวกฟักข้าว บุก มะเขือเทศและถั่วอินคาทั้งส่วนของน้ำมันและสารสกัด วัยรุ่นเป็นวัยที่มักจะชอบกินจุบจิบ บุกเป็นพืชที่เมื่อทานแล้วจะไปขยายตัวในกระเพาะอาหารทำให้อิ่มง่ายกว่าจึงช่วยลดการกินจุบจิบและยังให้พลังงานอีกด้วย ส่วนมะเขือเทศและฟักข้าวก็ช่วยต้านอนุมูลอิสระ
- ข้าวเคลือบสมุนไพรสำหรับทุกเพศทุกวัย มีสารสกัดที่คนเราทุกเพศทุกวัยต้องการเหมือนกัน เพื่อฟื้นฟูสภาพร่างกาย เช่น หลังจากการเจ็บป่วย อ่อนล้า หลังผ่าตัด บาดเจ็บจากการเล่นกีฬาหนัก เป็นต้น โดยใช้ข้าวไรซ์เบอร์รี่ ซึ่งมีค่าดัชนีน้ำตาลต่ำ มีธาตุเหล็กเยอะเหมาะกับการช่วยซ่อมแซมและฟื้นฟูสภาพร่างกาย มีสารแอนโทไซยานินที่ช่วยต้านสารอนุมูลอิสระและสารสกัดจากอัญชันที่ช่วยเพิ่มสารต้านอนุมูลอิสระอีกแรง
ข้าวเคลือบสมุนไพรแต่ละชนิดที่ถูกคิดค้นขึ้นมานี้ อาจจะมีการใส่สารสกัดที่มาจากพืชผักสมุนไพรที่เหมือนกัน แต่ใส่ในปริมาณที่ต่างกันเพราะคำนวณตามความเหมาะสมที่แต่ละวัยต้องการหรือควรได้รับ ทั้งนี้สีของข้าวแต่ละแบบเป็นสีที่เกิดจากธรรมชาติของสารสกัดซึ่งอาจจะไม่ได้ตรงตามสีรูปลักษณ์ภายนอกของพืชผักสมุนไพรเหล่านั้นเพราะเป็นสีที่ไม่มีการสังเคราะห์ใดใด ข้าวเคลือบสมุนไพรนี้นอกจากประโยชน์ทางด้านสารอาหารที่ได้รับโดยตรงแล้วนั้น ยังเป็นการช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจด้านการเกษตรทั้งชาวนาและชาวสวนที่ปลูกพืชผักสมุนไพรเหล่านี้อีกด้วย
ขอบคุณที่มาจาก : รายการ Hotline สายสุขภาพ (อาทิตย์ที่ 8 พฤษภาคม 2559), healthchannel
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมโทร : 02-116-3623 แอมอาร์เฮิร์บส์